บทบาทของรถปืนใหญ่ 2S7M ในสงครามยูเครน: พลังการยิงและกลยุทธ์การต่อสู้


ในสงครามยูเครน กองทัพรัสเซียใช้รถปืนใหญ่ 2S7M ซึ่งเป็นรถปืนใหญ่ขนาด 203 มิลลิเมตร ที่มีบทบาทสำคัญ โดย 2S7M เป็นอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูงและระยะยิงที่ยาวไกล ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์หลักของปืนใหญ่รัสเซีย


คุณสมบัติของรถปืนใหญ่ 2S7M

การออกแบบ 2S7M มีพื้นฐานมาจากแนวคิดของปืนใหญ่ในยุคโซเวียตที่เน้นการใช้ปืนใหญ่หนัก โดยมีคุณสมบัติหลักดังนี้:

- **ระยะยิง**: 2S7M มีระยะยิงที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 30 กิโลเมตร สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลได้

- **พลังทำลาย**: รถปืนใหญ่รุ่นนี้ใช้กระสุนขนาด 203 มิลลิเมตร ซึ่งมีพลังทำลายสูง สามารถทำลายสิ่งกีดขวางและอุปกรณ์ของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- **ความคล่องตัว**: แม้ว่าจะเป็นปืนใหญ่หนัก แต่ 2S7M มีฐานล้อแบบโซ่ ทำให้มีความคล่องตัวในการเคลื่อนที่และสามารถจัดวางได้อย่างรวดเร็วในสนามรบ



การใช้งานในสงคราม

ในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ปืนใหญ่ถูกเรียกว่า "ราชาแห่งการต่อสู้" โดยทั้งสองฝ่ายต่างพึ่งพาปืนใหญ่ในการทำสงคราม กองทัพรัสเซียยิงกระสุนประมาณ 10,000 นัดต่อวัน แสดงให้เห็นถึงพลังการยิงที่แข็งแกร่งและความสามารถในการทำสงครามอย่างต่อเนื่อง 2S7M ได้เข้าร่วมในการโจมตีแนวป้องกันของยูเครน โดยเฉพาะในพื้นที่โดเนตสค์

แม้ว่ายูเครนจะมีการใช้ปืนใหญ่หลายประเภท รวมถึงอุปกรณ์เก่าจากยุคโซเวียต แต่จำนวนและความสามารถในการผลิตของรัสเซียยังคงมีความได้เปรียบ กองทัพรัสเซียสามารถผลิตกระสุนปืนใหญ่ได้ถึง 250,000 นัดต่อเดือน ซึ่งช่วยให้สามารถสนับสนุนการยิงได้อย่างต่อเนื่อง



ผลกระทบของสงคราม

เมื่อสงครามดำเนินต่อไป บทบาทของปืนใหญ่ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายต่างปรับกลยุทธ์เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในสนามรบ รัสเซียใช้ 2S7M และปืนใหญ่หนักอื่น ๆ ในการทำลายแนวป้องกันของยูเครน ขณะเดียวกัน ยูเครนก็พยายามเสริมสร้างพลังการยิงของตนเองด้วยการนำเข้าระบบปืนใหญ่จากตะวันตก

โดยรวมแล้ว รถปืนใหญ่ 2S7M ในสงครามยูเครนไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของพลังการยิง แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายในสงครามนี้อีกด้วย

ใหม่กว่า เก่ากว่า